ข่าวสารและกิจกรรม
Smart Grid กับพลังงานแสงอาทิตย์: เทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อระบบไฟฟ้าที่เสถียรและยั่งยืน
25 มิถุนายน 2568

ในโลกที่ความต้องการพลังงานไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับความตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม การบูรณาการแหล่งพลังงานหมุนเวียนเข้าสู่ระบบโครงข่ายไฟฟ้าจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะ พลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดที่มีศักยภาพสูง อย่างไรก็ตาม การผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์มีความผันผวนตามสภาพอากาศและช่วงเวลา การนำ Smart Grid หรือระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะเข้ามาทำงานร่วมกันจึงเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างระบบไฟฟ้าที่เสถียรและยั่งยืน
Smart Grid คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญ?
Smart Grid คือระบบโครงข่ายไฟฟ้าที่ผสานเทคโนโลยีดิจิทัลและการสื่อสารแบบสองทิศทางเข้ากับการผลิต ส่ง และจำหน่ายไฟฟ้า ทำให้ระบบสามารถตรวจสอบ ควบคุม และตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงได้อย่าง Real-time คุณสมบัติเด่นของ Smart Grid ได้แก่
- การสื่อสารสองทิศทาง: ช่วยให้ข้อมูลระหว่างผู้ผลิตและผู้บริโภคไหลเวียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เซ็นเซอร์และการตรวจสอบขั้นสูง: ทำให้สามารถติดตามสถานะของระบบไฟฟ้าได้อย่างละเอียดและรวดเร็ว
- ระบบอัตโนมัติและการควบคุมอัจฉริยะ: ช่วยปรับสมดุลของอุปสงค์และอุปทานไฟฟ้า รวมถึงการจัดการความผิดปกติได้อย่างรวดเร็ว
- การรองรับพลังงานหมุนเวียน: ออกแบบมาเพื่อรองรับการเชื่อมต่อของแหล่งพลังงานหมุนเวียนหลากหลายรูปแบบ รวมถึงพลังงานแสงอาทิตย์
ความสำคัญของ Smart Grid
คือการยกระดับประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือของระบบไฟฟ้า ลดการสูญเสียพลังงาน เพิ่มความปลอดภัย และที่สำคัญคือการรองรับการเติบโตของพลังงานหมุนเวียนได้อย่างราบรื่น
พลังงานแสงอาทิตย์กับการทำงานร่วมกับ Smart Grid
การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์มีความไม่แน่นอนสูง ขึ้นอยู่กับปริมาณแสงแดดในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความเสถียรของระบบไฟฟ้า หากไม่มีการจัดการที่ดี Smart Grid เข้ามามีบทบาทสำคัญในการแก้ไขข้อจำกัดนี้ด้วยการ
- พยากรณ์การผลิตไฟฟ้า: ระบบ Smart Grid สามารถวิเคราะห์ข้อมูลสภาพอากาศและพยากรณ์ปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตได้จากโซลาร์เซลล์ล่วงหน้า ทำให้ผู้บริหารจัดการระบบไฟฟ้าสามารถวางแผนการผลิตและสำรองพลังงานได้อย่างเหมาะสม
- การจัดการอุปสงค์และอุปทาน: เมื่อมีการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์มากเกินความต้องการ ระบบ Smart Grid สามารถสั่งการให้ลดการผลิตจากแหล่งอื่น หรือกระตุ้นให้ผู้บริโภคปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลานั้น (Demand Response)
- ระบบกักเก็บพลังงาน: Smart Grid สามารถบริหารจัดการระบบกักเก็บพลังงาน (เช่น แบตเตอรี่) ที่เชื่อมต่อกับโซลาร์เซลล์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะกักเก็บพลังงานในช่วงที่มีการผลิตมาก และปล่อยออกมาใช้ในช่วงที่มีความต้องการสูง หรือเมื่อการผลิตจากแสงอาทิตย์ลดลง
- การเชื่อมต่อแบบกระจายศูนย์: Smart Grid สนับสนุนการเชื่อมต่อของโซลาร์เซลล์ขนาดเล็กตามบ้านเรือนหรืออาคารพาณิชย์ (Distributed Generation) ทำให้เกิดแหล่งผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กจำนวนมาก ซึ่งช่วยลดภาระของระบบส่งไฟฟ้าหลักและเพิ่มความมั่นคงทางพลังงานในระดับท้องถิ่น
- การแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว: เมื่อเกิดความผันผวนในการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ หรือเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ระบบ Smart Grid สามารถตรวจจับและแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ลดผลกระทบต่อผู้ใช้ไฟฟ้า
ประโยชน์ของการผสานรวม Smart Grid และพลังงานแสงอาทิตย์
การทำงานร่วมกันของ Smart Grid และพลังงานแสงอาทิตย์นำมาซึ่งประโยชน์มากมาย ได้แก่
- ระบบไฟฟ้าที่เสถียรและเชื่อถือได้มากขึ้น: สามารถรับมือกับความผันผวนของพลังงานแสงอาทิตย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ลดการพึ่งพาพลังงานฟอสซิล: ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และบรรเทาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
- เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน: ลดการสูญเสียพลังงานในระบบส่งและจำหน่ายไฟฟ้า
- ลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าในระยะยาว: แม้ว่าการลงทุนเริ่มต้นใน Smart Grid และโซลาร์เซลล์อาจสูง แต่ในระยะยาวจะช่วยลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าและค่าไฟฟ้าของผู้บริโภค
- สร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่: ส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีและบริการที่เกี่ยวข้องกับ Smart Grid และพลังงานหมุนเวียน
Smart Grid และพลังงานแสงอาทิตย์เป็นสององค์ประกอบสำคัญที่จะขับเคลื่อนอนาคตของระบบไฟฟ้าให้มีความเสถียร ยั่งยืน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การลงทุนและพัฒนาเทคโนโลยี Smart Grid ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์อย่างชาญฉลาด จะเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างระบบพลังงานที่มั่นคงและยั่งยืนสำหรับประเทศไทยและโลกต่อไป
สนใจติดตั้งโซลาร์เซลล์สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอ็กซ์ จำกัด

- 27 สิงหาคม 2024
พลังงานแสงอาทิตย์กับภาคอุตสาหกรรม: โอกาสใหม่ในการลดต้นทุน

- 27 พฤศจิกายน 2024
กฟผ. มุ่งมั่นเร่งรัดโครงการโซลาร์ฟาร์ม 15 โครงการ

- 27 สิงหาคม 2024