ข่าวสารและกิจกรรม

แผนพลังงานสะอาดสร้างกำไร 2.9 ล้านล้านบาท

Energy X โซล่าเซลล์

ข่าวสารและกิจกรรม

แผนพลังงานสะอาดสร้างกำไร 2.9 ล้านล้านบาท พลังงานแสงอาทิตย์เป็นกุญแจสำคัญในการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

22 ตุลาคม 2567
Energy X โซล่าเซลล์

แผนพลังงานแห่งชาติฉบับใหม่ (NEP) ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติที่จริงจังฉบับแรกของประเทศไทยในการส่งเสริมพลังงานสะอาด คาดว่าจะสร้างรายจ่ายด้านทุนได้ 2.9 ล้านล้านบาทในอีก 13 ปีข้างหน้า โดยพลังงานแสงอาทิตย์เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

แผนพัฒนาพลังงานใหม่ (NEP) ปี 2567 ซึ่งกำหนดให้บังคับใช้ตั้งแต่ปีนี้จนถึงปี 2580 ประกอบด้วย แผนพัฒนาพลังงาน แผนน้ำมัน แผนก๊าซ แผนพลังงานทางเลือก และแผนการประสิทธิภาพพลังงาน โดยเงินส่วนใหญ่คิดเป็นมูลค่า 1.52 ล้านล้านบาท มาจากการพัฒนาพลังงานหมุนเวียน และการลงทุนบางส่วนในโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงฟอสซิล เจ้าหน้าที่กระทรวงพลังงานรายหนึ่งซึ่งขอไม่เปิดเผยชื่อกล่าว

เชื้อเพลิงฟอสซิลยังคงมีความจำเป็นสำหรับการผลิตไฟฟ้า แต่การใช้งานมีแนวโน้มลดลง ภายใต้แผนพัฒนาพลังงานไฟฟ้า สัดส่วนถ่านหินและก๊าซธรรมชาติจะลดลงเหลือ 48% ของการใช้เชื้อเพลิงทั้งหมดภายในปี 2580 ซึ่งลดลงจากเกือบ 80% เมื่อต้นปีนี้ ในขณะที่พลังงานหมุนเวียนควรจะมีสัดส่วน 51% เพิ่มขึ้นจาก 20% เมื่อปลายปีที่แล้ว โดยสัดส่วน 20% นี้รวมถึงพลังงานน้ำที่นำเข้าจากประเทศลาวด้วย ส่วนที่เหลือ 1% มาจากพลังงานนิวเคลียร์และโซลูชันพลังงานใหม่ที่มุ่งเน้นลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและประหยัดไฟฟ้า

ในส่วนของพลังงานหมุนเวียน คาดว่าการพัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์จะเร่งตัวขึ้น โดยคาดว่ากำลังการผลิตไฟฟ้าจะสูงถึงอย่างน้อย 1,000 เมกะวัตต์ กำลังการผลิตเพิ่มเติมนั้นขึ้นอยู่กับความพร้อมของระบบส่งไฟฟ้าของประเทศ โครงการเหล่านี้ไม่รวมแผงโซลาร์เซลล์ลอยน้ำ ซึ่งจะพัฒนาแยกกันโดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)

กฟผ. มีแผนติดตั้งโซลาร์ฟาร์มลอยน้ำขนาดกำลังการผลิต 2,700 เมกะวัตต์ ที่อ่างเก็บน้ำทั่วประเทศระหว่างปี 2568-2572 จากเงิน 2.9 ล้านล้านบาทนั้น 425,000 ล้านบาทมาจากธุรกิจพลังงานใหม่ รวมถึงการกักเก็บคาร์บอน ระบบกักเก็บพลังงาน และการพัฒนาเครื่องปฏิกรณ์โมดูลาร์ขนาดเล็ก (SMR) เจ้าหน้าที่กล่าว

ตามข้อมูลของสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) SMR คือเทคโนโลยีพลังงานนิวเคลียร์ประเภทหนึ่งที่มีกำลังการผลิตสูงสุด 300 เมกะวัตต์ต่อหน่วย ซึ่งคิดเป็นประมาณหนึ่งในสามของกำลังการผลิตของเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาดใหญ่แบบดั้งเดิม ตามข้อมูลของสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ โดยทางการระบุว่า งบ 415,000 ล้านบาท มาจากการพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ 310,000 ล้านบาท มาจากโครงการที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ รวมถึงการสำรวจและผลิต 115,000 ล้านบาท มาจากยานยนต์ไฟฟ้าและการขนส่งน้ำมันผ่านท่อ 114,000 ล้านบาท และมาจากเชื้อเพลิงชีวภาพ รวมถึงเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน 114,000 ล้านบาท

ที่มา : bangkokpost.com