กระทรวงสาธารณสุขได้เปิดตัวนโยบายพลังงานอัจฉริยะและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (SECA) ซึ่งกำหนดให้หน่วยงานของรัฐติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อต่อสู้กับภาวะโลกร้อน

เพื่อต่อสู้กับภาวะโลกร้อน กระทรวงสาธารณสุขได้เปิดตัวนโยบาย Smart Energy and Climate Action (SECA) โดยหน่วยงานของรัฐจะติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์

นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ภาวะโลกร้อนส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างรุนแรง เช่น โรคจากความร้อนจัด การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ และสภาพอากาศที่รุนแรง ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุขจึงได้กำหนดนโยบาย SECA ขึ้น

“นโยบายนี้มีเป้าหมายเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและบรรเทาผลกระทบจากสภาพภูมิอากาศ โดยมั่นใจว่าทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันการสูญเสียพลังงานที่ไม่จำเป็น และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์โดยการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์” นายแพทย์โอภาส กล่าว

ณ เดือนเมษายน มีหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงสาธารณสุขจำนวน 1,496 จากทั้งหมด 1,857 หน่วยงาน ได้ติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แล้ว ซึ่งมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 75,806.09 กิโลวัตต์ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ปีละ 43,137.43 ตัน และลดค่าไฟฟ้าได้ปีละ 392 ล้านบาท

ภายใต้นโยบายดังกล่าว จะมีการปรับปรุงอุปกรณ์ให้เป็นประเภทประหยัดพลังงาน เพื่อลดการใช้พลังงานลงอีก 20% ซึ่งรวมถึงการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า การปรับปรุงและสร้างอาคารประหยัดพลังงาน และการปรับปรุงการจัดการขยะและน้ำเสียโดยใช้หลัก 3R (ลด รีไซเคิล ใช้ซ้ำ) รัฐบาลยังได้เปิดตัวแคมเปญเพื่อส่งเสริมการประหยัดพลังงานและการใช้พลังงานทดแทน

การวิจัยแสดงให้เห็นว่า หากเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไม่เป็นไปตามเป้าหมายทั่วโลก อุณหภูมิเฉลี่ยในประเทศไทยอาจเพิ่มขึ้น 2-3 องศาเซลเซียสภายในสิ้นศตวรรษนี้ ดังนั้น การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของภาวะโลกร้อน จึงมีความสำคัญและต้องอาศัยความร่วมมือและความพยายามอย่างต่อเนื่องจากทุกคน

ที่มา : nationthailand.com